Skip to content Skip to footer

วันลาไม่ต้องใช้ ไปเที่ยวเสาร์อาทิตย์เตรียมพร้อมวอร์มร่างกายรับกลิ่นไอทะเลเบาๆ ที่จังหวัดใกล้ๆ ก่อนเลยเนี่ยแหละ

ขับรถออกจากกรุงเทพฯ มาแค่ไม่เกิน 3 ชม. ก็ได้มาเหยียบทรายคลายเครียดไปกับบรรยากาศฟินๆ แบบนี้เลย แต่งานนี้ไม่ได้มีแค่ทะเลนะ เพราะระยองนี่มีอะไรมากกว่าที่คิดเยอะมาก
ทั้งความเขียว ความคลีน ความถ่ายรูปขึ้นต่างๆ

แพ็คกระเป๋าแล้วตามมา!
ลืมภาพทะเลเดิมๆ ไปก่อน แล้วออกไปสำรวจเมืองเล็กๆ ที่น่ารักนี้กัน

ที่บอกเมืองเล็กๆ ที่น่ารัก มันไม่ได้เล็กอย่างที่คิดไว้เลย ระยองเป็นเมืองที่ค่อนข้างใหญ่มาก
แถมยังมีภูมิประเทศที่หลากหลายตั้งแต่ชายหาดทั่วไป ป่าชายเลน ป่าสน ทะเลโขดหิน หรือถ้าออกไปไกลหน่อยก็น้ำใสแจ๋ว ดำน้ำกันได้เลยนะ แบบเกาะมันนอก มันในต่างๆ นั่นไง

แพลนสำหรับ 2 วันของเรา

วันแรก: ออกจากกรุงเทพฯ สบายๆ แวะทานข้าวกลางวันที่วารีซีฟู้ด+ถ่ายรูปเล่นแถวหาดบ้านเพก่อนพระอาทิตย์ตกรีบตรงดิ่งไปเขาแหลมหญ้า ต้องไปตอน golden hour นะ
เย็นขับไป Villa Bali แล้วกินพิซซ่าอันขึ้นชื่อเป็นอันจบหนึ่งวัน

วันที่ 2 : หลังจากเดินชิวในโรงแรมจนหนำใจแล้วก็อย่าลืมมาเดินชิวหาดแม่พิมพ์ที่อยู่ตรงข้ามกับโรงแรมด้วย ก่อนจะเช็คเอาท์ไปแวะแหลมสนและทุ่งโปรงทองตามลำดับ ปิดท้ายด้วยคาเฟ่ ณ เมืองเก่า ถนนยมจินดา เมืองระยอง ก็ถือเป็นอันปิดทริปสวยงามเรียบร้อย

อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า 

ขอบอกว่าชอบที่นี่มากก เป็นอีกหนึ่งที่ที่ไปแล้วรู้สึกประทับใจในสถานที่จริงมากกว่าในรูปอีก
ภูเขาหินตัดทะเลสีเข้ม บวกกับเนินหญ้าสีทองที่ย้อมด้วยพระอาทิตย์ตกดินนี่คือชิลสุดและถ้าใครมีเวลาเหลือขอแนะนำให้ไปเดินขึ้นเขาเส้นทางธรรมชาติ จะได้จุดชมวิวที่ดีงามมาก แต่ถ้าเวลาไม่พอแค่เดินลัดเลาะรอบๆ ไปตามโขดหินโขดหญ้าก็อินมากแล้ว คีย์สำคัญคือควรจะมาตอนแดดกำลังสวยไม่เช้าไปเลยก็ช่วงพระอาทิตย์ตกนี่ล่ะ

ดีกรีความสวยงามขนาดนี้ เลยไม่แปลกใจที่จะเห็นหลายๆ คนมาแคมปิ้งกันที่นี่ด้วยนะ นี่ก็พูดได้เลยว่าเขาแหลมหญ้าเข้าไปอยู่ในใจแล้วเรียบร้อย วันหลังถ้ามีโอกาส ก็อยากจะกลับมาดูพระอาทิตย์ตกดินที่นี่อีกสักรอบ เวลาเปิด-ปิด: 08:30-16:30 น.
ค่าเข้าอุทยาน: ผู้ใหญ่ 40 บาท, เด็ก 20 บาท
ภายในอุทยานมีบริการกางเต๊นท์ ห้องอาบน้ำต่างๆ นะ เข้าไปดูในเฟซบุ๊คได้เลยย
https://www.facebook.com/อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด-594019167355928/

หาดบ้านเพ, แหลมแม่พิมพ์

สารภาพว่าความตั้งใจแรกเลยคือจะข้ามไปเกาะเสม็ดนั่นแหละแต่ไม่ทัน! ระหว่างที่นั่งกินไปคิดไปที่ร้านวารีซีฟู๊ด ก็ค้นพบว่าตรงนี้ก็วิวดีเหมือนกัน หาดมีความมินิมอล บวกกับวิวเกาะเสม็ดอยู่ไกลๆ ใครเป็นสายแลนด์สเคปน่าจะชอบได้ไม่ยาก

ส่วนอีกหาดอยู่ตรงข้ามกับโรงแรมที่กำลังจะไปพักพอดีเลย ก็คือแหลมแม่พิมพ์นั่นเอง

ทรายมีความละเอียด สะท้อนน้ำดีมากก ถือเป็นหนึ่งตัวเลือกที่ดีอีกตัวหนึ่งสำหรับคนที่ไม่ได้ข้ามไปฝั่งเกาะเสม็ด

อีกทริคนึงคือลองเลือกเส้นทางขับรถเลียบชายฝั่งทะเลไปเรื่อยๆ แทนเส้นในเมืองแทน

ระหว่างที่รถวิ่งอยู่ก็ลองซูมๆ ดูในกูเกิ้ลแม็ปนั่นแหละ
จะชอบมีแหลมนู้นหาดนี้โผล่มาให้เห็นอยู่เรื่อยเลย

เผลอๆ จะได้มุม hidden สวยๆ ไว้ให้ถ่ายรูปได้เพลินเลยล่ะ

Villa Bali Eco Resort

ตัดสินใจเลือกที่พักอยู่นานมากกก เพราะมาระยองทั้งที ทริปซัมเมอร์ทั้งที
ก็อยากได้อารมณ์ทรอปิคอลนิดๆ เขียวหน่อยๆ 

แต่สุดท้ายแล้วคือเลือกเก่งมาก ของจริงสวยกว่าในเว็บอีก แถมร้านอาหารของโรงแรมนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องพิซซ่าเตาถ่านอีกด้วย ดินเนอร์บ้านๆ สไตล์อิตาเลี่ยนกันไปเลย แฮปปี้สุดๆ

ใครมากันหลายคนที่พักเค้าก็มีเป็นบ้าน 2 หลังห้องติดกันให้ด้วยนะ บรรยากาศโดยรวมประทับใจมากๆ ในราคาหัวละไม่ถึงหนึ่งพันบาทแถมเขียวสมใจ ชื่อก็บอกอยู่แล้วเนอะ ว่ายกสไตล์บาหลีมาเต็มๆ

แหลมสน

บังเอิญรู้จักแหลมสนครั้งแรกก็จากพี่ที่ร้านวารีเนี่ยแหละ พอดีพี่เขาเป็นสายถ่ายรูปเหมือนกัน ชอบไปตระเวนเก็บภาพสวยๆ จากมุมต่างๆ ทั่วระยอง แล้วแหลมสนก็เป็นหนึ่งในนั้น

ระหว่างทางที่ขับไปแหลมสน จะมีทิวสนสองข้างทางสวยมากกกก ยาวประมาณเกือบ 2 กิโลเมตรเป็น scenic road ดีๆ อีกเส้นหนึ่งเลย พอขับเข้าไปที่หาดก็จะมีทิวสนตามชื่อแหลมสนเลยสามารถมานั่งปิกนิก เดินเล่น กันได้ชิวๆ เลยล่ะ

ทุ่งโปรงทอง

อันนี้คือมาเหนือความคาดหมายอีกแล้ว ส่วนตัวค่อนข้างไปเที่ยวจังหวัดที่ติดกับขอบทะเลบ่อย ตอนแรกก็คิดว่าน่าจะเฉยๆ ชินๆ กับป่าชายเลนแล้วล่ะ แต่อันนี้คือกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตามากกกกก มากจนรู้สึกดีใจที่ตอนแรกไม่ข้ามอันนี้ไปซะก่อน ทางเดินทอดยาวเข้าไปเป็นกิโลๆ เลย หรือถ้าขี้เกียจสามารถนั่งเรือไปอีกรูทหนึ่งได้เหมือนกัน
แต่ไม่ว่าทางไหน ก็จะได้เห็นต้นโปรงขึ้นเรียงรายกันไปนับร้อยๆ พันๆ ต้น สมบูรณ์สุดๆ ไปเลย เดินมาร้อนๆ เจอเงาในป่าชายเลนเข้าไปก็เย็นขึ้นทันตาเลยทีเดียว

ทุ่งโปรงทองเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.
ค่าเข้าชมฟรี แต่อาจจะมีค่าบริการฝากรถประมาณ 25 บาท

ถนนยมจินดาว่ากันว่าเป็นถนนสายแรกของจังหวัดระยอง เสมือนเป็นเส้นการค้าที่ขนานไปกับแม่น้ำระยองเลยทีเดียว บรรยากาศสำหรับเรามีความคล้ายเมืองเก่าแบบจันทบุรี ภูเก็ต อะไรแบบนั้นเลย
แต่อาจจะไม่ได้ใหญ่เท่า ตลอดแนวจะเห็นบ้านไม้เก่าๆ เรียงรายกันไป มีคาเฟ่ ร้านอาหารให้ได้ลองแวะเข้าไปชิมเต็มเลยล่ะ

เลยอดไม่ได้ที่จะแวะไปร้านชื่อเก๋อย่าง ราย็อง นั่งกินโรตีเคล้าบรรยากาศเพลินไปได้เรื่อยๆ
เลย ถ้าใครมีเวลา แนะนำให้ออกไปสำรวจถนนเส้นนี้ดู เชื่อว่ายังเหลือร้านดีๆ อีกเพียบ

สรุปว่าเป็นทริปต้อนรับซัมเมอร์สั้นๆ ที่เหนือความคาดหมายไปมากๆ  ดีใจที่ได้พาตัวเองออกมาสำรวจจังหวัดใกล้ๆ แถมอยากจะชวนใครต่อใครให้ไปตามรอยกันด้วยล่ะ : )

Show CommentsClose Comments

Leave a comment