Skip to content Skip to footer

ใส่รองเท้า สะพายกระเป๋า เดินขึ้น “เขาช้างเผือก”

เพื่อนๆ หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ “เขาช้างเผือก” กันมาบ้างแล้ว ด้วยชื่อเสียงเรียงนามว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี มีความสูงประมาณ 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง แถมยังขึ้นชื่อว่าจองยาก เพราะใน 1 ปี จะเปิดให้คนเข้าไปท่องเที่ยวเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น เพื่อรักษาสมดุลของธรรมชาติ รวมไปถึงเรื่องความปลอดภัยด้วย เพราะฉะนั้น หากใครลองดูรูป อ่านรีวิวแล้วเกิดสนใจขึ้นมา ก็อาจจะต้องเตรียมตัวกันสักหน่อย เพื่อที่จะจับจองพื้นที่ในการเดินทางครั้งนี้

หากเพื่อนๆ คนไหนจับจองพื้นที่ได้สำเร็จแล้ว ก็เตรียมตัวให้พร้อมทั้งเรื่องอุปกรณ์ ถุงนอน ไฟฉาย (ส่วนเต็นท์มีให้เช่านะ) รวมไปถึงการเตรียมร่างกายให้พร้อม เพราะ การเดินเขา 8 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง คงไม่ใช่ทริปการเดินทางง่ายๆ สบายๆ แต่รับรองได้ว่าเมื่อขึ้นไปถึงยอดเขา จะได้ประสบการณ์ที่รู้สึกคุ้มค่าแน่นอน!!

หมู่บ้านอีต่อง

จุดเริ่มต้นการเดินทาง ที่เป็นเสมือนทางขึ้นเขาช้างเผือกอยู่ที่หมู่บ้านอีต่อง ตำบลปิล็อก ก็จะมีตลาดให้จับจ่ายใช้สอย ซื้อเสบียง รวมถึงเป็นจุดนัดพบเจ้าหน้าที่นำทาง และ จ้างลูกหาบช่วยขนสัมภาระให้ (ขอแนะนำให้จ้าง เพื่อให้เราจะได้มีสมาธิกับการชื่นชมธรรมชาติรอบข้าง รวมถึงปลอดภัยมากขึ้นด้วย)

เมื่อทุกอย่างพร้อมเราก็เริ่มเดินขึ้นเขา ซึ่งระหว่างทางก็จะเริ่มแปรเปลี่ยนจากความเป็นหมู่บ้าน เข้าสู่ธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งรอบที่เราเดินนั้นเป็นรอบใกล้ๆ เที่ยง จึงค่อนข้างร้อน แต่ระหว่างทางก็จะมีจุดให้คอยหลบแดดอยู่เรื่อยๆ รวมไปถึงนั่งพักรับประทานอาหารบนเนินหินเล็กๆ

8 กิโลเมตร ของเส้นทางกว่าจะขึ้นไปถึงยอดเขานั้น เราจะเจอป่าโปร่งสลับกับทุ่งหญ้า มีเส้นทางเดินหลากหลายรูปแบบ ทั้งทางราบ ทางชัน หน้าผาที่ต้องปีนป่าย ทางอันตรายที่ต้องจับเชือกเพื่อข้ามไป จึงควรทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่นำทางอย่างเคร่งครัด

ก่อนจะถึงยอดเขา เราก็จะมาตั้งเต๊นท์กันตรงบริเวณที่เรียกกันว่า “กิ่วลม” ซึ่งจะเป็นที่พักของเราในคืนนี้ ก่อนที่จะเตรียมตัวไปพิชิตยอดเขากัน!!

ความท้าทายที่ “สันคมมีด”

ก่อนจะไปถึงยอดเขานั้นไม่ง่าย! เราจะผ่านจุดที่เขาบอกกันว่าหวาดเสียวที่สุด นั่นคือ “สันคมมีด” ซึ่งอาจจะดูน่ากลัว แต่ไม่ต้องห่วงเพราะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างดี และ เมื่อผ่านจุดนี้ไปได้แล้ว เดินต่อไปอีกไม่ไกลเราก็จะถึงจุดหมาย ได้ขึ้นไปมองทิวทัศน์แบบ 360 องศา ยืนบนยอดเขา เห็นทั้งภูเขาฝั่งไทย และ พม่า นั่งพักรับลมเย็นหลังจากการพิชิตอุปสรรคขึ้นมาถึงด้านบนยอดเขา

หลังจากนั่งชื่นชมทิวทัศน์กันพอสมควร ก็ควรจะรีบลงจากยอดเขาก่อนที่พระอาทิตย์จะตก เพราะขากลับก็ต้องผ่านสันคมมีดอีกครั้ง ซึ่งระหว่างลงก็อย่าลืมชมทิวทัศน์รอบๆ เพราะวิวบนอดเขาขณะพระอาทิตย์กำลังจะตกก็เป็นอีกอย่างที่น่าประทับใจไม่แพ้กัน

นอนพักกลางลานกิ่วลม

เรากลับลงมาแวะนอนเต็นท์ที่ลานกิ่วลมหนึ่งคืน ให้หายจากความเหนื่อยล้าที่ผ่านมาทั้งวัน ก่อนที่พรุ่งนี้จะลงจากเขา ก่อนนอนจะออกมานั่งชมดาวตอนกลางคืนก็โรแมนติกเหมือนกันนะ!

ตอนเช้า อย่าลืมตื่นเช้าๆ ลุกขึ้นมานั่งรับวิวพระอาทิตย์ขึ้น เก็บความประทับใจไว้ก่อนจะกลับลงจากเขา ก็จะเป็นการเติมเต็มประสบการณ์ดีๆ ของการได้ลองพิชิตเป้าหมายในการปีนเขาครั้งนี้ให้จบครบสมบูรณ์ได้อย่างแน่นอน!

Show CommentsClose Comments

Leave a comment