Skip to content Skip to footer

วันหยุดนี้ ไม่ได้ไปเที่ยวไหนไกล ไปเที่ยวในไทย แบบใกล้กรุงเทพฯ กันมั้ย!

บอกเลยใกล้แค่อัมพวา แต่จะไม่เหมือนอัมพวาแบบที่เคยไปแค่ช๊อปช๊อป ชิมชิม กับกินเท่านั้น!

เพราะนอกจากจะกินอิ่มแล้วจะพาไปนอนอุ่นๆ กันที่บ้านโฮมสเตย์ของคนในพื้นที่ริมน้ำกันจริงๆ ด้วย ว่าเค้าอยู่กันยังไง กินกันยังไง และใช้ชีวิตกันยังไง

ห่างจากกรุงเทพฯ ไม่เกิน 2 ชม. ใช้เวลาแค่เสาร์อาทิตย์ถ้วน จะชวนใครไปก็ไม่มีปัญหา

ขอแค่มีใจอยากจะมาซึบซับ มาอิน มาเที่ยวแบบเก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง ที่นี่ตอบโจทย์มาก!

ใครเริ่มสนใจ อยากจะเปลี่ยนมาเที่ยวแนวนี้บ้างแล้ว ยกมือขึ้น ตามกันมาเลย 😀

บ้านริมคลองโฮมสเตย์

เสิร์ชเจอครั้งแรกแล้วชอบเลย เพราะตรงกับสิ่งที่กำลังมองหาอยู่พอดิบพอดี!

มีทั้งบ้านริมคลองเล็กๆ น่ารัก ที่ดูชิลๆ บวกกับกิจกรรมเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชมที่ขนมาให้เลือกอีกเพียบ เรียกว่าได้เที่ยวแบบเก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้งทุกขั้นตอนตั้งแต่นอนยันตื่น

เห็นเล็กๆ แบบนี้ ป๊อปปูล่าไม่ใช่เล่นนะ คนนี่หมุนเวียนกันไม่ขาดสายเลยล่ะ

เพราะฉะนั้นบางทีถ้าบ้านริมคลองเต็มก็จะได้ไปนอนบ้านของพี่ๆ ในชุมชนกันจริงๆ ไปเลย : )

โชคดีที่ได้ไปนอนบ้านพี่ลั่นทม คนคูลๆ แห่งชุมชน ผู้ที่นอกจากจะสอนสานใบมะพร้าวแล้ว แปลงผักสวยๆ ที่เห็นนี่ก็ของพี่เขาปลูกเองหมดเลยนะะเรียนเอง ปลูกเอง แถมไปเป็นวิทยากรมาแล้วอีกหลายที่ด้วย

รักการมานอนโฮมสเตย์ก็ตรงนี้แหละ! เรื่องราวของคนที่เจอระหว่างทางช่วยเติมพลังอย่างเหลือเชื่อเลย ว่ามั้ย

ทำจักสานกับพี่ลั่นทม

สเตชั่นทำจักสานรวมอยู่ในแพ็กเก็จบ้านริมคลองโฮมสเตย์เลย

และอย่างที่บอกว่ามีคนสอนทำสุดคูลอยู่ตรงหน้านี้แล้ว พี่ลั่นทมนั่นเอง!

พี่ลั่นทมเล่าว่าเมื่อก่อนไม่ได้ทำจักสานมะพร้าวหรอกนะ ทำรับเหมา แต่พี่ลั่นทมสนใจ
เลยทดลองศึกษา แกะแพทเทิร์นเอง ลองผิดลองถูกเอง แถมจดบันทึกผิดถูกเองสไตล์ Data Analysis เลยนะ 

เล่าไปมือก็สานไป ไม่ถึง 15 นาที หมวกเสร็จ 1 อัน พี่ลั่นทมบอกนี่ขายได้ 100 บาท!

เรียกว่านั่งดูทีวีเพลินๆ เงินก็ไหลมา ไหลมา

ความน่ารักคงเป็นที่พี่ลั่นทมอินและเห็นคุณค่าของสิ่งที่ตัวเองทำอยู่จริงๆ

แกยิ้มตลอดเวลาที่เล่า เคยตั้งแต่ออกงานแต่ง งานบวช หรืองานใหญ่ๆ ในห้าง ก็ผ่านมาหมดแล้วนะ หรือจะครีเอทของรับแขกต่างชาติต่างเมืองก็ได้หมด  พี่ลั่นทมจัดให้

ใครอยากมาเจอพี่ลั่นทมตัวเป็นๆ ต้องมาตามแล้วล่ะ

ทำขนมต้ม

สเตชั่นทำขนมต้มนี่เป็นอะไรที่ชอบมากๆ  ปั้นไป กินไป จนอิ่ม

ขนมต้มประกอบไปด้วยสามองค์ประกอบหลักๆ  ได้แก่ไส้มะพร้าวหวานๆ แป้งห่อ แล้วก็คลุกกับมะพร้าวขูดนิดนึง ยิ่งกินตอนร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใคร

เคล็ดลับความอร่อย นอกจากไส้ที่กลมกล่อมแล้ว คงต้องเป็นแป้งหุ้มที่บางกำลังพอดี

ไม่งั้นลูกขนมต้มก็จะจืดไปสักหน่อย ซึ่งก็ตามคาด ลูกแรกๆ ของที่ทำหนาเป็นลูกชิ้นปลาเลย

ปั้นเพลินๆ คุณน้าก็เล่าให้ฟังถึงสมัยสาวๆ ต้องปีนต้นมะพร้าวเพื่อเก็บน้ำตาลบ้าง ล่องเรือบ้าง

เออ ไอ้การทำขนมต้มนี่มันก็เป็นกิจกรรมกลุ่มดีเหมือนกันนะ มีความเม้ามอย มีความล้อมวงคุยกันอย่างแฮปปี้ อิ่มกายด้วย อิ่มใจด้วย

ทำน้ำตาลมะพร้าว

น้ำตาลมะพร้าวที่เห็นๆ กันนี่ ที่แท้มาจากน้ำเลี้ยงของต้นมะพร้าว! คุณลุงสาธิตให้ดูกันจะๆ ปีนขึ้นไปบนต้นมะพร้าวแล้วกรีดตรงโคนของก้านมะพร้าวเหมือนกรีดยาง

รอเวลาที่น้ำตาลค่อยๆ หยดลงมาทีละนิด ทีละนิด คือนานกว่าที่คิดมากๆ คิดดูว่ากว่าจะได้น้ำตาลปี๊บนึงมันจะนานขนาดไหน ต้องใช้มะพร้าวซักกี่ต้น ชาวสวนชาวไร่เค้ามีความอดทนกันมากจริงๆ!

ปีนให้ดูเปล่าๆ ยังไม่พอ คุณลุงพาไปดูที่หม้อเคี่ยวก่อนจะกลายมาเป็นก้อนน้ำตาลมะพร้าวอย่างที่เห็นๆ กัน เคี่ยวกับเตาฟืนไปเรื่อยๆ จนข้นเหนียวเป็นคาราเมล ก็เอามาตีเหมือนเวลาใช้เครื่องตีแป้งทำเค้ก แต่นี่ใช้มือคน แข็งแรงสุดๆ อยากจะทำเป็นภาพสโลวโมชั่นให้ดูว่าพี่เค้าเท่ขนาดไหน แรงสปินจัดเต็มไปเลย ไม่ต้องง้อเครื่องจักร

หน้าที่เดียวของเราคือหยอดน้ำตาลข้นๆ ลงไปในถ้วยเพื่อรอแห้ง ซึ่งก็พอกินได้อย่างเดียว หน้าตาต้องขอให้มองข้ามๆ ไปก่อน

ล่องเรือชมวิถีริมน้ำ

ตกเย็นก็ถึงช่วงล่องเรือจากท่าน้ำหน้าบ้านไปยังตลาดอัมพวา ตลอดริมฝั่งแม่น้ำจะสังเกตเห็นความหลากหลายเยอะแยะมากกกก ตั้งแต่เรือท้องถิ่น บ้านริมน้ำจริงๆ ไปจนถึงโฮมสเตย์หน้าตาสมัยใหม่ บ้านพักตากอากาศที่เหมือนยกมาจากยุโรปก็มี

ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าริมน้ำนี่มันก็คู่กับวิถีชีวิตไทยๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย เกิดมาก็ร้อนแล้ว ก็อยากอยู่ใกล้ๆ กับน้ำเย็นๆ เป็นธรรมดา แล้วริมน้ำนี่มันก็ชิวดีจริงๆ อยากนั่งเรือตากลมไปนานๆ เหมือนกัน ขอลืมบรรยากาศรถติด บีทีเอสเบียดไปแปปนึงนะ ;p

ตักบาตรตอนเช้า

บ้านริมคลองโฮมสเตย์มีท่าน้ำอยู่ข้างๆ บ้าน ใครใคร่ใส่บาตรตอนเช้า พระท่านก็จะมาบิณฑบาตทางเรืออย่างที่เห็นนี่ล่ะ อย่าลืมปลุกเพื่อนข้างๆ ไปใส่บาตรด้วยกันตอนเช้าล่ะ

ชมวิถีชีวิตชาวสวน

เฉดของใบมะพร้าวกับการล่องเรือในสวนเอื่อยๆ เป็นอะไรที่อยากไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งล่ะ

มาแวะมาตลาดน้ำท่าคาเพื่อการนี้ ซึ่งเอาจริงๆ ก็ยังมีความเป็นโลคอลอยู่มากกว่าตลาดอัมพวานะะ  แวะซื้อของกินจุบจิบนิดหน่อยจากคุณป้า แล้วจึงล่องเรือพายเอื่อยๆ ไปตามคูคลองที่เค้ายังสัญจรกันอยู่จริงๆ

เป็นโมเมนต์ที่ไม่ได้มีอะไรมากมายเลย แต่กลับรู้สึกสงบดีจริงๆ เรือพายไปช้าๆ พร้อมกับทิวใบมะพร้าวและบ้านเรือนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อยากให้ทุกคนได้มาลองเหมือนกัน

เที่ยวตลาดน้ำ

ไปเที่ยวตลาดน้ำมาทั้งตลาดน้ำท่าคาและตลาดน้ำอัมพวา เห็นทั้งความแตกต่างและความหลากหลายของทั้งสองที่เลยย ตลาดอัมพวาจะของกินเยอะรวมไปถึงคนก็เยอะกว่ามากๆ  แต่ในขณะที่ตลาดน้ำท่าคาของกินจะน้อยกว่าหน่อย คนก็น้อยตามไปด้วย และแน่นอนว่ายังคงเห็นวิถีชีวิตหรืออะไรๆ แถวนี้บ้าง ซึ่งก็รักในความแตกต่างของทั้ง 2 ที่นี้นะ ใครยังไม่เคยไป ชอบแบบไหน อยากแบบไหน ลองไปเที่ยวกันดูเนอะ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น! 

ตลาดร่มหุบ

ได้ยินชื่อเสียงมานานนนนแล้ว อยากจะแว่บมาดูตลาดร่มหุบที่เค้าว่าน่าตื่นตาตื่นใจซะหน่อย

แต่มาแล้วพบว่า ต้องรอรถไฟอีก 2 ชม. เลยเก็บเอาบรรยากาศรอบๆ มาฝากกัน

สังเกตดูดีๆ ผ้าใบแต่ละร้านมีล้อเลื่อนกันทั้งนั้นเลยนะ เรียกได้ว่าเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์

ใครแว่บมาดูรถไฟวิ่งผ่านมะม่วงทัน ฝากถ่ายรูปมาฝากกันบ้างนะ

ใครได้ยินอัมพวาจนบ่อย จนชินหู แล้วยังไม่ได้ไปเยือนให้ถึงด้วยตัวเองบ้าง!

ส่วนตัวก็เป็นคนนึงที่มองข้ามไปเหมือนกันแหละ มาเที่ยวริมน้ำครั้งนี้เลยรู้สึกเหมือนมาย้อน
มาดูอะไร แบบเดิมๆ แบบลึกๆ ที่ไม่เคยได้นึกถึงมาก่อน ซึ่งมันก็ดีเหมือนกันนะ!

ใกล้กรุงเทพฯแค่นี้เอง อาทิตย์ไหนๆ นัดแก๊งเพื่อนได้ มีรถไปก็เที่ยวได้ง่ายมากๆ 

ชวนแล้วนะะ ออกไปเที่ยวไทยเท่ๆ กัน

Show CommentsClose Comments

Leave a comment